Skip to main content

ที่นี่ไต้หวัน ตอน "เป่ยโถว ดมกลิ่นกำมะถัน กินราเมงรสเลิศ"

โอยยยย ง่วงนอน

นี่คือไต้หวันตอนสุดท้าย

การเดินทางไปบ่อน้ำพุร้อนสีเขียว  ควันขโมง ที่เป่ยโถวนั้นง่ายมากๆ
เพียงนั่งรถไฟสายสีแดงไปสถานีเป่ยโถว และเปลี่ยนไปขึ้นสายสีชมพู ลงสถานีซินเป่ยโถว
แผนที่ Taipei Metro คลิกซิ คลิก

การเที่ยวไต้หวันมันง่ายและสะดวกสบาย ไม่ต้องกลัวหลงเลย ทั้งรถเมล์ รถไฟฉึกฉัก รถไฟฟ้า 
มีป้ายบอกตลอดทาง ทั้งจีนและภาษาอังกฤษ ขอแค่เรารู้สถานีปลายทางแค่นั้นก็สบายละ


เมื่อถึงสถานีซินเป่ยโถว ให้เดินข้ามถนน (ทางออกมีทางเดียวอ่าเนอะ)
 เดินสวยๆ หล่อๆ ผ่านสวนสาธารณะไปเรื่อยๆ จะเจอห้องสมุดประชาชน
ที่แสนคลาสสิคและสวยงามมาก นั่นคือ Beitou public library
เราเข้าไปเดินสำรวจภายในห้องสมุด และชมบรรยากาศรอบๆ จนรู้สึกว่าหิวละ กินข้าวกันเถอะ

จากการสิงในกรุ๊ปไต้หวัน และมีการแชร์ร้านราเมง
ไหนๆ เราก็มาถึงแล้วเนอะ ฉะนั้นมันต้องลองค่ะ
และก็ไม่ผิดหวัง เพราะราเมงอร่อยมากๆๆๆๆ 
แต่กว่าจะหาร้านเจอ พวกเราหลงทางอยู่นาน เพราะมองไม่เห็นร้าน
.
.
ขอใช้สตรีทวิวนะ ไม่มีรูป เพราะหิวจนหน้ามืด
ใครมันจะมีกะจิตกะใจถ่ายรูป ขึ้นเนิน ลงเนิน ขาเฟิร์มมาก
ไม่ปากล้องทิ้งก็บุญโขแล้ว แหม่

ร้านนี้แหละน่าจะใช่ อ่าวเฮ้ย!!!!
ฉันหมายถึงร้านป้ายสีขาวตัวอักษรสีแดง 5 ตัวนั่นนะยะ
ภายนอกดูเหมือนบ้านคนธรรมดา หรือมันเป็นบ้านคนธรรมดาวะ


คือฉันอาจจะจำผิดร้านก็ได้ไง ยังไงก็ลองเสี่ยงดวงไปดูนะ
ถ้าไม่ใช่ก็เดินออกมา I'm sorry. I don't know. OK!! Good bye
แต่ถ้าใช่ข้างในเป็นร้านอาหาร ไม่ใหญ่นัก
มีคุณป้าแนะนำเมนูเก่งโคตร ชวนเชื่อมาก แต่มันอร่อยจริงๆ 5555555

หันออกจากหน้าร้าน ทางซ้ายมือคุณจะเห็นศาลา (ช่วยมองให้เห็นนะ ขอร้อง)
หลังจากกินอิ่มก็ไปนั่งพักที่ศาลาตรงนี้แป๊บนึง แล้วเดินลงข้างล่าง 
สถานที่ต่อไปคือ Thermal Valley


เอาหละจากรูปนี้หาป้าย Thermal Valley ให้เจอซิ (นี่แกเล่นอะไร กากเอ้ย)
เจอมั้ยๆ ใบ้ให้ว่าจากรูปนี้ ป้ายอยู่มุมล่างขวา 
เจอป้าย เจอถนนนี้แล้ว เดินตรงเข้าไปเลย
ไม่ต้องปีนบันดงบันไดนะ เดินตรงไปเรื่อยๆ นะ

ดูแผนที่นะคะ
คลิกเลย รออะไร
เห็นป้าย Beitou Thermal Valley มั้ย
ถ้าเห็นแสดงว่าคุณมาถูกทางแล้ว

เดินตรงเข้าไป เราจะรู้สึกร้อน ได้กลิ่นกำมะถันโชยมา 
ถ้าเพื่อนไม่ได้ผายลม (มันก็ไม่ได้แรงขนาดนั้นปะ) 

.
.
.
และในที่สุด เราก็มาถึง
น้ำพุร้อนสีเขียวใสๆ อากาศก็ร้อนชิหาย

เดินถ่ายรูป ทำหน้ามึนๆ ให้ไอร้อนปะทะหน้าเล่น


แล้วก็ไปไหนต่อฟะ....

อ๋อ ไปตากแอร์ ใช้บัตรวัยโจ๋ รับส่วนลด
ที่ National Palace Museum
คราวนี้เราใช้บริการรถเมล์ไต้หวันอีกแล้ว สะดวกสบายสุดๆ

เราเดินงงๆ หาเคาน์เตอร์ซื้อตั๋ว ต้องฝากกระเป๋าด้วยวิธีหยอดเหรียญ
พร้อมกรีดร้องในใจเอาเหรียญตรูคืนมา 
(คือพอแกมาเอากระเป๋า มันก็คืนเหรียญให้อยู่แล้วแหละ)


ท่ามกลางทัวร์จีนนับร้อย เราเดินตามหา

"ผักกาดอยู่ไหน"

เราพูดในใจโดยไม่บอกให้เพื่อนรู้

ห้องที่ใครๆ ก็ต้องมา ห้องที่ใครๆ ห้ามพลาด ทุกคนต่างจ้องมองหยกผักกาด และตั๊กแตน
แต่เราเฉยๆ หลังจากออกมานั่งพักที่สวนใกล้ๆ พิพิธภัณฑ์
เราและเพื่อนต่างคิดเห็นตรงกันว่า
"หมูสามชั้น"
เหมือนมากๆ แกเอ้ย เราประทับจิตประทับใจหมูมาก


บรรยากาศในสวน  มีมุมให้ถ่ายรูปเล่น แม้ว่าน้ำจะเขียวไปหน่อย
แต่ปลาตัวใหญ่นะ

ห้ามพลาด ไปอีกครั้งก็ต้องกิน
1. เค้กร้าน 85°C Bakery Cafe อันนี้เรากินแถวสถานีรุ่ยฟาง หลังกลับจากจิ่วเฟิ่น

2. โอเด้ง น้ำซุปหมาล่า ที่เซเว่น หยิบเลยตักเลย ฟินแน่ๆ
3. ชาขวดๆ ในรูปนี่ Milk Tea และรสอื่นๆ อีกมากมาย

4. เค้กสับปะรด ของเราชอบเจียเต๋อ (ChiaTe) ถ้าอ่านผิดขออภัยนะคะ

5. หมี่รถเข็นแถววัดหลงซาน คิดถึงลุงกับป้ามาก คุยกันไม่รู้เรื่องหรอก
ใช้กูเกิลทรานสเลทเอา 55555 หว่อ ย่าว หมาง (หนูจะเอาน้ำซุปค่ะลุง)
จากนั้นลุงจะชี้ที่ป้ายหมางไหน มีหลายแบบ ซุปอะไรล่ะนังหนู
นี่ก็มือดีเนอะ เลือก 40NT แล้วกัน 
จะซุปเครื่องใน หรือลูกชิ้นมาลุ้นอีกที
 คือเพื่อนอยากกินลูกชิ้น แต่สุดท้ายได้ซุปเครื่องใน
แล้วในกลุ่มไม่มีใครกินเครื่องใน ฮ่าๆๆๆๆ ตรูนี่แหละต้องกิน

ความพิเศษคือซุปของลุงกับป้าใส่ลูกเดือยเว้ยเฮ้ย 
แปลก เกิดมาเพิ่งเคยกิน ประทับใจหล๊ายหลาย
หมี่หน้าตาเป็นแบบนี้ ส่วนซุปไม่มีรูป


มาดูแพลนของเรากันบ้าง
ไม่ได้เที่ยวตามแพลนเลย ตั้งแต่วันแรกที่ถึงไต้หวัน
วันที่ 1
แค่ต่อแถวเข้าเมือง นั่งรถเข้าเมือง ก็หมดแรงขึ้นกระเช้าแล้ว
ไปเดินตลาดเหราเหอกินหมูป่ากันเถอะ

วันที่ 2
วันนี้โดนย้ายไปเที่ยววันที่ 4 ทั้งโปรแกรม เพราะวัดเทียนหยวนล้วนๆ ค่ะ


วันที่ 3


วันที่ 4 และ 5
วันที่ 4 ที่เราย้ายไปเที่ยววันที่ 18 มีนาคม เดิมไม่มีวัดเทียนหยวนอยู่ในโปรแกรม
เพราะหาข้อมูลยากมาก ขึ้นรถเมล์ตรงไหน สายอะไร ดูลำบากจัง
ตอนนี้มาคิดดูถ้าไม่จัดไปคงเสียดายไปทั้งชีวิต

ทริปคร่าวๆ ของเราก็ประมาณนี้แหละ คิดจนกระโหลกจะแตก คิดข้ามปี
คิดตั้งแต่ V air กับ Tiger air ยังไม่เปิดเที่ยวบินนี้

สุดท้ายอย่าเชื่อข้อมูลของเรา ลองหาข้อมูล เปิดแผนที่ ค้นในเว็บเพิ่มเติมเพื่อความชัวร์
ดูซิว่ายัยป้านี่มันมั่วรึเปล่า แล้วเราจะสนุกกับการเดินทาง
.
.
.
.
.
คราวหน้า คราวไหนยังไม่รู้ ตามไปเที่ยวโมจิโกะ (Mojiko)
เมืองท่าสุดโรแมนติก เมืองแกงกะหรี่ กับอ๊คแคทกันนะ
พร้อมประสบการณ์จองที่พักกับ Airbnb

เดินทางยังไงไม่รู้เพราะเพื่อนพาไป เป็นทริปที่ถ้าเพื่อนทิ้ง ข้าแย่แน่
แต่ข้าถือกุญแจห้องพักเว้ยเฮ้ย ฮ่าๆๆๆๆๆ







Comments

Popular posts from this blog

เดคูพาจ (Decoupage)

    ช่วงนี้กำลังเห่องานเดคูพาจ (บ้างก็เขียนว่าเดโคพาจ เดคโคพาจ นะ) เราเห็นคนอื่นทำ แล้วอยากลองทำบ้าง ไม่ได้ทำขายอะไรนะ ส่วนใหญ่ทำใช้เอง ทำให้เพื่อนบ้างบางโอกาส สนุกดี     ตอนที่สนใจเดคูพาจใหม่ๆ เราสั่งของผ่านทางเว็บไซต์ตลอดเลย โดยเฉพาะ Facebook มีให้เลือกหลายร้านมากๆ เพราะเราไม่สะดวกไปจตุจักร เนื่องจากไกลบ้าน และไม่คุ้มค่ารถ      วันหนึ่งมีโอกาสไปเดินสำเพ็ง-พาหุรัด ก็เจอร้านๆ นึง เราเคยซื้อของร้านนี้ตั้งแต่ขายเทียนเจล สีเพ้นท์แก้ว/กระจก ขวดโหล จนมาถึงวันนี้ที่ร้านนี้มีขายทั้งน้ำยา กาว กระดาษ ตะกร้า กระเป๋าสาน ล่าสุดที่ไปมีกระเป๋าสตางค์แบบยาว  และอื่นๆ อีกมากมาย น่ารักน่าสนใจล่อเงินในกระเป๋าอีกแล้ว     ฉะนั้น วันนี้เราขอนำเสนอ "ตะขอแขวนเข็มขัด" (เรียกแบบนี้แหละ ก็มันเป็นตะขอที่เราต้องการเอามาใช้แขวนเข็มขัดนี่)  สาเหตุที่เราต้องทำเพราะว่า แม่ของเราคลั่งไคล้เข็มขัดมาก เราไม่รู้นะชาวบ้านเขาเก็บเข็มขัดกันยังไง แต่บ้านเราม้วนๆ แล้ววางไว้ในตู้เสื้อผ้า หรือพาดไว้ที่ใดที่หนึ่ง(สำหรับเส้นที่ใช้บ่อย)       อยู่ไปจำนวนมันเพิ่มขึ้น พื้นที่ในการเก็บก็ใช้มากขึ้น จึงเป็นที่มาของการสรรห

ผงโรยข้าวจากไดโซะ

ก่อนอ่านบทความนี้ จงตั้งสติและอ่านข้อความ 4 บรรทัดล่างอย่างตั้งใจ "ลิ้นใคร ลิ้นมัน" "รสนิยมใคร ก็รสนิยมมัน" "กระเพาะใคร ไตใคร ก็ไม่เกี่ยวกัน" "ฉะนั้นเธอกับฉันไม่เหมือนกันนะเออ" มาถึงตรงนี้คุณอ่านหนังสือเกิน 7 บรรทัดสั้นๆ แล้วค่ะ ดิฉันมีความยินดียิ่งที่จะเล่าเรื่องราวนี้ โดโซะ!!!!! ไดโซะ คุณผู้หญิงเดินเข้าร้านร้อยเยน เช่น ไดโซะ คุณซื้ออะไร 1. ดิ่งไปที่ของกิน 2. พุ่งตัวไปหาเครื่องสำอาง 3. ดูพวกเครื่องประดับ ถุงมือ ถุงเท้า ถุงน่อง 4. ดูของใช้ เครื่องครัวเก๋ๆ 5. ส่องของคิขุน่ารัก สำหรับเรา หาขนมก่อน หาของที่คิดว่าเรากินได้  เสบียงยามตกยาก เมื่อเงินร่อยหรอ และเอากลับมาประเทศบ้านเกิดได้ โดยไม่หมดอายุทันทีที่ออกจากแผ่นดินญี่ปุ่น สิ่งที่ใครๆ ก็แนะนำให้ซื้อ อันนี้ก็ไม่รู้ว่าไปมันเชื่อมาจากไหน หรือมันแค่อยากลองกินเบนโตะแบบที่แม่บ้านญี่ปุ่นทำ และล่อลวงด้วยการลงรูปทุกเช้าในอินสตาแกรม today's breakfast today's lunch โอ้วววว แม่จ๋า น้ำลายไหล ซึ่งมันก็ดันทุรังไปติดตามเขา

Himalaya Herbals ใช้ดีมั้ย?

เปิดเรื่องด้วย Clarina anti-acne kit  แม้จะไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ตัวแรกที่รู้จัก  แต่ถ้าเป็นสิว นอกจาก neem face wash ก็อยากแนะนำอันนี้แหละ Clarina anti acne kit บอกกล่าวไว้นิดนึง "หนังหน้าเรา ผิวมัน แต่หน้าหนาวจะแห้งมาก มีสิวผด สิวหัวเปิด สิวเม็ดเล็กๆ มีหัวสิวสีขาวๆ ชอบบีบสิว  เวลาเห็นหัวสิวแล้วสะใจ ชอบแกะสิว  เอามือลูบหน้าเล่นๆ แล้วแกะเลย  มีหลุมสิว รอยแดง สิวเสี้ยนที่จมูก รูขุมขนกว้างมาก" ชุดรักษาสิว ประกอบด้วย 1. Face wash gel เราชอบกลิ่นมาก หอมชื่นใจ  ฟองนุ่มๆ ล้างน้ำเปล่าแล้วหน้าไม่แห้งตึง แต่นุ่ม รู้สึกสะอาด 2. Face mask มาส์กหน้าสีขาวข้น ทาแล้วรู้สึกเย็น บางครั้งแสบหน้าด้วย ทิ้งไว้ 10-15 นาทีล้างออก พอล้างหน้าแล้วรู้สึกใสมาก ผิวก็นุ่ม 3. Anti acne cream ครีมแต้มสิว เขาให้แต้มบริเวณที่เป็นสิว หรือถ้าลูบแล้วรู้สึกว่าตรงนี้สิวแน่ เราก็จะใช้ตัวนี้แต้ม เช้า-เย็น ประมาณ 3-5 วัน สิวตรงนั้นหายไปจากหน้าเลยอะ แต่ไปขึ้นที่อื่นต่อ ฮ่าๆๆๆ ยังไงวะเนี่ย อย่างช้าสุดก็ 1 สัปดาห์ มันยุบไปเลย บางอันพอบีบก็มีหัวสิวออกมา แต่เขาบ