Skip to main content

เดคูพาจ (Decoupage)

    ช่วงนี้กำลังเห่องานเดคูพาจ (บ้างก็เขียนว่าเดโคพาจ เดคโคพาจ นะ) เราเห็นคนอื่นทำ แล้วอยากลองทำบ้าง ไม่ได้ทำขายอะไรนะ ส่วนใหญ่ทำใช้เอง ทำให้เพื่อนบ้างบางโอกาส สนุกดี

    ตอนที่สนใจเดคูพาจใหม่ๆ เราสั่งของผ่านทางเว็บไซต์ตลอดเลย โดยเฉพาะ Facebook มีให้เลือกหลายร้านมากๆ เพราะเราไม่สะดวกไปจตุจักร เนื่องจากไกลบ้าน และไม่คุ้มค่ารถ
     วันหนึ่งมีโอกาสไปเดินสำเพ็ง-พาหุรัด ก็เจอร้านๆ นึง เราเคยซื้อของร้านนี้ตั้งแต่ขายเทียนเจล สีเพ้นท์แก้ว/กระจก ขวดโหล จนมาถึงวันนี้ที่ร้านนี้มีขายทั้งน้ำยา กาว กระดาษ ตะกร้า กระเป๋าสาน ล่าสุดที่ไปมีกระเป๋าสตางค์แบบยาว  และอื่นๆ อีกมากมาย น่ารักน่าสนใจล่อเงินในกระเป๋าอีกแล้ว

    ฉะนั้น วันนี้เราขอนำเสนอ "ตะขอแขวนเข็มขัด" (เรียกแบบนี้แหละ ก็มันเป็นตะขอที่เราต้องการเอามาใช้แขวนเข็มขัดนี่)  สาเหตุที่เราต้องทำเพราะว่า แม่ของเราคลั่งไคล้เข็มขัดมาก เราไม่รู้นะชาวบ้านเขาเก็บเข็มขัดกันยังไง แต่บ้านเราม้วนๆ แล้ววางไว้ในตู้เสื้อผ้า หรือพาดไว้ที่ใดที่หนึ่ง(สำหรับเส้นที่ใช้บ่อย)
      อยู่ไปจำนวนมันเพิ่มขึ้น พื้นที่ในการเก็บก็ใช้มากขึ้น จึงเป็นที่มาของการสรรหาตะขอมาแขวนให้เข็มขัดพวกนี้ แต่ถ้าซื้อมาติดแขวนเข็มขัดเลย มันก็ง่ายเกินไป  อีกทั้งเรากำลังเห่อเดคูพาจซะด้วย จับมาทำมาแต่งนิดๆ หน่อยๆ คงไม่เป็นไรเนอะ


วัสดุอุปกรณ์ มีดังนี้ (ไม่เรียงตามรูปนะจ๊ะ ในรูปมันมึน)
1. กาวเดคูพาจ
2. น้ำยาเคลือบ (Varnish)
3. กระดาษแนพกิน (Napkin)
4. ตะขอ ซื้อจากบิ๊กซี โซนที่ขายพวกอุปกรณ์ภายในห้องน้ำ  เราเลือกตะขอที่พื้นสีขาว เพราะจะทำให้ลายเด่นขึ้น
5. แปรง พู่กัน กรรไกร มีดคัตเตอร์ ฟองน้ำ เตรียมให้พร้อม

และลงมือทำตามวิธีมั่วนิ่มของเรา ฮ่าๆๆๆๆ


1. ใช้พู่กันทากาวเดคูพาจลงบนตะขอ ทิ้งไว้ซักครู่รอกาวหมาด (เกือบแห้งอะ)
2. ตัดกระดาษแนพกินให้มีขนาดใหญ่กว่าตะขอเล็กน้อย  ลอกกระดาษแนพกิน ซึ่งกระดาษมันจะมี 3 ชั้น แต่เราใช้แค่แผ่นที่มีลายเท่านั้น
3. หลังจากลอกกระดาษเหลือเพียงชั้นเดียวเรียบร้อยแล้ว  ก็นำมาแปะบนตะขอ ค่อยๆ แปะ ค่อยๆ วางนะเธอ  แล้วใช้ฟองน้ำจุ่มน้ำพอหมาดกดกระดาษให้ติดกับตัวตะขอ อย่ากดแรงนะ เดี๋ยวกระดาษจะขาด
4. รอให้แห้งสนิท

5. มาถึงขั้นตอนการตัดกระดาษ เราใช้มีดค่อยๆ กรีดส่วนเกินออกไปให้เป็นแบบในรูป (เริ่มอธิบายไม่ถูก)
6. นำพู่กันจุ่มกาวทาบริเวณที่กระดาษยังไม่ติดกับตัวตะขอ และรอให้แห้ง
7. สุดท้ายแล้ว เป็นขั้นตอนการเคลือบ ส่วนใหญ่เราใช้น้ำยาเคลือบแบบด้าน ทาประมาณ 2-3 รอบ หรือจะทามากกว่านี้ก็ได้นะ

เรียบร้อยแล้ว "ตะขอแขวนเข็มขัด" ของเรา  หน้าตาเป็นแบบนี้แหละ หุๆๆๆ  จะเอาไปแปะด้านในตู้เสื้อผ้า ที่ผนังห้อง หรือแปะด้านหน้าประตูตู้เสื้อผ้าเหมือนเราก็ดีนะ เป็นระเบียบ ประหยัดพื้นที่ แถมหยิบใช้สะดวกอีกด้วย (ถ้าไม่แขวนซ้อนกันมากมายหลายอันอะนะ)



คราวหน้า เราจะติดลายให้กระเป๋ากล้องใบน้อยๆ ซึ่งเป็นหลักฐานยืนยันว่าตรูบ้าเห่อ
เดคูพาจมาก ถึงขั้นลงทุนซื้อกระเป๋ากล้องใบใหม่เพื่อการนี้โดยเฉพาะ

Comments

Popular posts from this blog

ว่าด้วยต่างหูหนีบ

ต่างหูหนีบมาอีกแล้ว ทำไงได้ก็คนมันเห่อนี่นะ      ด้วยความมุ่นมั่นที่จะทำต่างหูแบบหนีบให้เหมือนต่างหูแบบเจาะมากที่สุด ทำให้ต้องดั้นด้นค้นฟ้าคว้ากาวไกลถึงสำเพ็ง (ความจริงก็ไม่ไกลหรอกแค่ข้ามเจ้าพระยาไป แต่เราใช้คำให้มันเว่อร์เท่านั้นแหละ)      สำหรับต่างหูแบบห่วงเราไม่สนใจแล้ว เพราะแบบนี้มันเนียน มองเผินๆ เหมือนเราเจาะหูจริงๆ อันที่เราสนใจคือแบบตะปู ซึ่งมันดันมีสองแบบ คือมีห่วง และไม่มีห่วง (เพิ่งรู้ ตายๆๆๆ) หน้าตามันเป็นแบบนี้ ซ้ายมีห่วง สองอันขวาคือแบบไม่มีห่วง และมีหลายขนาดอีกเน้อ พอจะเห็นความแตกต่างมั้ย     แบบไม่มีห่วงนี่แหละที่เราเห็นว่ามันต้องทำอะไรอย่างอื่นได้อีก นอกจากห้อยลูกปัดธรรมดา ฉะนั้นลองเอากาวมาแปะจี้ แปะเพชรดีมั้ย แล้วจะใช้กาวอะไรดีล่ะ     แน่นอนว่าอากู๋รู้ทุกเรื่อง หลังจากค้นไปเรื่อยๆ ก็เจอกาว Epoxy ซึ่งมันสามารถยึดติดได้กับหลายพื้นผิว เช่น เหล็ก ไม้ แก้ว พลาสติก เลยตั้งใจไปสำเพ็งเพื่อซื้ออะไหล่ต่างหู และกาว epoxy (พ่อบอกว่ากาวนี้หาซื้อที่ร้านขายวัสดุก่อสร้าง แต่ไหนๆ ก็ไปสำเพ็งแล้ว รู้ชื่อร้านที่มีกาวขาย แถมรู้...

ผงโรยข้าวจากไดโซะ

ก่อนอ่านบทความนี้ จงตั้งสติและอ่านข้อความ 4 บรรทัดล่างอย่างตั้งใจ "ลิ้นใคร ลิ้นมัน" "รสนิยมใคร ก็รสนิยมมัน" "กระเพาะใคร ไตใคร ก็ไม่เกี่ยวกัน" "ฉะนั้นเธอกับฉันไม่เหมือนกันนะเออ" มาถึงตรงนี้คุณอ่านหนังสือเกิน 7 บรรทัดสั้นๆ แล้วค่ะ ดิฉันมีความยินดียิ่งที่จะเล่าเรื่องราวนี้ โดโซะ!!!!! ไดโซะ คุณผู้หญิงเดินเข้าร้านร้อยเยน เช่น ไดโซะ คุณซื้ออะไร 1. ดิ่งไปที่ของกิน 2. พุ่งตัวไปหาเครื่องสำอาง 3. ดูพวกเครื่องประดับ ถุงมือ ถุงเท้า ถุงน่อง 4. ดูของใช้ เครื่องครัวเก๋ๆ 5. ส่องของคิขุน่ารัก สำหรับเรา หาขนมก่อน หาของที่คิดว่าเรากินได้  เสบียงยามตกยาก เมื่อเงินร่อยหรอ และเอากลับมาประเทศบ้านเกิดได้ โดยไม่หมดอายุทันทีที่ออกจากแผ่นดินญี่ปุ่น สิ่งที่ใครๆ ก็แนะนำให้ซื้อ อันนี้ก็ไม่รู้ว่าไปมันเชื่อมาจากไหน หรือมันแค่อยากลองกินเบนโตะแบบที่แม่บ้านญี่ปุ่นทำ และล่อลวงด้วยการลงรูปทุกเช้าในอินสตาแกรม today's breakfast today's lunch โอ้วววว แม่จ๋า น้ำลายไหล ซึ่งมันก็ดันทุรังไปติดตามเขา...