ไม่ได้อัพบล็อกนานมาก ความจริงมันก็ไม่สนใจอัพอยู่แล้วนี่หว่า - -"
เมื่อชีวิตเข้าสู่วัยทำงาน มันยิ่งไม่มีเวลา
เมื่อชีวิตเข้าสู่วัยทำงาน มันยิ่งไม่มีเวลา
ต้องแหกตาตื่นตั้งแต่ตีห้า (ตอนนี้เลื่อนมาเป็นตีห้าครึ่ง) เพื่อไปทำงานให้ทันแปดโมงเช้า
กว่าจะเลิกงานก็ห้าโมงเย็นโน่น ที่ทำงานเราก็ไกลแสนไกล นั่งรถกลับบ้านเกือบสองชั่วโมง(มีแอบแวะช็อปบ้างบางโอกาส)
กว่าจะเลิกงานก็ห้าโมงเย็นโน่น ที่ทำงานเราก็ไกลแสนไกล นั่งรถกลับบ้านเกือบสองชั่วโมง(มีแอบแวะช็อปบ้างบางโอกาส)
และยาทาเล็บสีม่วงเข้มแตกลายอันนี้ ก็ได้มาเพราะแวะระหว่างทาง ขณะรอรถกลับบ้านนี่แหละ โอ้ว
ฉะนั้นวันนี้อิชั้นจะมารีวิวให้ดูนะเจ้าคะว่า "ยาทาเล็บแตกลาย" ที่ว่าเนี่ย
แท้จริงแล้วหน้าตาเป็นเช่นไร
พบกับนางเอกและเหล่าตัวประกอบ
ขวดแรก (จากซ้ายไปขวา)
เคลือบเล็บ ลากตัวมากจาก Beauty Buffet พามาเข้าฉากเฉยๆ ไม่ได้ใช้ ฮา >>
สีที่ทารองพื้นของ The face shop >>นางเอกเล็บแตก Lucky star และขวดสุดท้าย
Skinfood nail vita nut... เอ่อ ชาวบ้านเค้าใช้เป็น base coat แต่คุณป้าใช้เป็น Top coat เลยค่ะ
ฉากต่อไป ทาสีพื้นของตัวประกอบ The face shop BR804 ซื้อมา 75 บาท มั้ง
>> ภาพนี้เฉลยอาการแตกลายของนางเอกนิ๊ดดดนึง (วันก่อนลองทาแล้ว ลืมถ่ายรูปไว้)
>> อ๊ะๆ แต่ก่อนจะทาสีแตกได้ ต้องรอจนกระทั่งสี BR804 แห้งสนิทนะ
>> ขั้นต่อไป ถึงคิวนางเอกเล็บแตก Lucky star ของเราแล้ว กลิ่นแรงซะจนถูกที่บ้านขับไล่
ต้องระเห็ดออกมาทาที่หน้าบ้านเลย ฮือๆ
>> เพียงทาลงบนสีพื้นให้ทั่วทั้งเล็บ และรอ
เราจะค่อยๆ สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นบนเล็บ
(ในรูปทาชั้นเดียวนะ ที่ดูหนาเพราะจุ่มขึ้นมาเยอะมั้ง!!!
แล้วก็ทาปืดๆ ครั้งที่ 1 ครึ่งเล็บ และอีกครั้งเต็มเล็บเลย)
แล้วก็ทาปืดๆ ครั้งที่ 1 ครึ่งเล็บ และอีกครั้งเต็มเล็บเลย)
>> เมื่อสีแห้งสนิท มันก็แตกลายอย่างที่เห็นนี่แหละจ้า
>> ขั้นตอนสุดท้ายก็เคลือบเล็บให้เงานะจ๊ะ เพราะบางครั้งสีอาจจะซีดกว่าสีจริง หรือถ้าชอบ
แบบด้านๆ ก็ไม่ต้องเคลือบก็ได้นะ
แบบด้านๆ ก็ไม่ต้องเคลือบก็ได้นะ
เสร็จแล้ว เล็บแตกลายของเรา เคยดูรีวิวของคนอื่นแล้ว แตกสวยจัง แต่ทำไมของเรามันเป็นแบบนี้ก็ไม่รู้เพราะยี่ห้อรึเปล่าหนอ?
อย่างไรก็ตาม "เค้าก็พอใจของเค้านะ ^^"
.............จบบริบูรณ์..............
Comments
Post a Comment