Skip to main content

วัดบรมราชากาญจนาภิเษก

วันอาทิตย์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2552

ในที่สุดเราก็ได้ไปวัดบรมราชากาญจนาภิเษกเสียที ด้วยความบังเอิญแท้ๆ ทั้งที่งานก็เยอะแต่ก็จะไป แหม มีโอกาสทั้งที ก็อยากไปชื่นชมความงามของวัดนี้บ้าง เพราะได้ยินหลายคนบอกว่า สวย อลังการ เหมือนอยู่เมืองจีนเลย

บางคนอาจเรียกวัดแห่งนี้ว่า วัดมังกรกมลาวาส (เล่งเน่ยยี่) 2 แต่เมื่อเทียบกันแล้ว ที่บางบัวทองกว้างขวางกว่ามาก ส่วนเรื่องศิลปะของวัด พูดได้เต็มปากเลยว่าจีนแท้ๆ เพราะทันทีที่ก้าวลงจากรถ มันรู้สึกได้เลยว่า เราอยู่ที่เมืองไทยแน่เหรอ นี่มันเมืองจีนชัดๆ เสียดายที่ไปวันอาทิตย์ มองไปทางไหนเห็นแต่คน คนเยอะมาก เยอะจนล้นวัด ที่จอดรถแทบไม่พอ

จะว่าไป ชาวบ้านแถวนั้นก็โชคดีไปเลย อยู่ดีๆ ความเจริญก็เข้ามาหา ไม่ต้องทำอะไรมาก แค่เก็บเงินค่าจอดรถ หรือเปิดร้านอาหาร หรือจะเอาน้ำมาขายข้างทางก็หาเงินเข้ากระเป๋าได้สบายยยย

ว่าแล้วอย่ารอช้า เรามาดูความสวยงามของศิลปะจีนในวัดนี้กันดีกว่า







ด้านข้างของวัด ลงจากรถปุ๊บ กดชัตเตอร์ปั๊บเลย












ด้านข้างอีกแล้ว นี่คนยังน้อยนะ เดี๋ยวเข้าไปในวิหารแล้วจะรู้สึก


ระหว่างรอผู้ใหญ่เขาไปเข้าห้องน้ำกัน วัยรุ่นเหลือน้อยอย่างเราก็ขอถ่ายรูปอยู่รอบๆ นี่แหละ

ชอบโคมไฟวัดจังเลย


อีกมุมของวัด แถวโรงครัว เงียบสงบต่างจากหน้าวัดอย่างสิ้นเชิง


แถวครัวนั่นแหละ

มัวแต่ถ่ายอยู่รอบๆ วัด เลยไม่ได้ขึ้นไปบนวิหารเสียที เอ้าตามมาเร้ววววเด็กๆ ขึ้นบันไดไปสูดอากาศบริสุทธิ์ที่ชั้นบนกันเถอะ
ขึ้นมาแล้ว..... แต่พอมองออกไป โอ้โห คนหรือมด


ขึ้นบันไดมายืนอยู่บริเวณระเบียงรอบพระวิหารแล้วมองลงไป พลางคิดในใจ ไม่น่าเลยฉ้าน วันนี้มันวันอาทิตย์


ภายในพระวิหาร (มองไปทางไหนก็เห็นแต่หัวคนเนอะ)


(ภาพเบลอ >> เรา : ไม่อยากเห็นคน, จิตใต้สำนึก : อย่ามาแก้ตัว ฝีมือห่วยก็บอกมา)
เดินมาทางระเบียงด้านหลังของพระวิหาร



แบบจีนๆ


ด้านหน้า ทางเข้าก่อนขึ้นไปพระวิหาร (คนเยอะจริงๆ)


แถมมมม

ชอบโคมไฟจิงๆ นะ




รูปสุดท้ายแล้ว

ตอนดูในกล้องไม่เห็นนก แต่พอมาดูในคอม ติดนกมาตั้ง 2 ตัวแน่ะ

ถ้ามีโอกาสได้ไปอีก เราจะไม่ไปวันอาทิตย์เด็ดขาด ฮึ่ย.... เข็ดแล้ว

Comments

Popular posts from this blog

เดคูพาจ (Decoupage)

    ช่วงนี้กำลังเห่องานเดคูพาจ (บ้างก็เขียนว่าเดโคพาจ เดคโคพาจ นะ) เราเห็นคนอื่นทำ แล้วอยากลองทำบ้าง ไม่ได้ทำขายอะไรนะ ส่วนใหญ่ทำใช้เอง ทำให้เพื่อนบ้างบางโอกาส สนุกดี     ตอนที่สนใจเดคูพาจใหม่ๆ เราสั่งของผ่านทางเว็บไซต์ตลอดเลย โดยเฉพาะ Facebook มีให้เลือกหลายร้านมากๆ เพราะเราไม่สะดวกไปจตุจักร เนื่องจากไกลบ้าน และไม่คุ้มค่ารถ      วันหนึ่งมีโอกาสไปเดินสำเพ็ง-พาหุรัด ก็เจอร้านๆ นึง เราเคยซื้อของร้านนี้ตั้งแต่ขายเทียนเจล สีเพ้นท์แก้ว/กระจก ขวดโหล จนมาถึงวันนี้ที่ร้านนี้มีขายทั้งน้ำยา กาว กระดาษ ตะกร้า กระเป๋าสาน ล่าสุดที่ไปมีกระเป๋าสตางค์แบบยาว  และอื่นๆ อีกมากมาย น่ารักน่าสนใจล่อเงินในกระเป๋าอีกแล้ว     ฉะนั้น วันนี้เราขอนำเสนอ "ตะขอแขวนเข็มขัด" (เรียกแบบนี้แหละ ก็มันเป็นตะขอที่เราต้องการเอามาใช้แขวนเข็มขัดนี่)  สาเหตุที่เราต้องทำเพราะว่า แม่ของเราคลั่งไคล้เข็มขัดมาก เราไม่รู้นะชาวบ้านเขาเก็บเข็มขัดกันยังไง แต่บ้านเราม้วนๆ แล้ววางไว้ในตู้เสื้อผ้า หรือพาดไว้ที่ใดที่หนึ่ง(สำหรับเส้นที่ใช้บ่อย)       อยู่ไปจำนวนมันเพ...

ว่าด้วยต่างหูหนีบ

ต่างหูหนีบมาอีกแล้ว ทำไงได้ก็คนมันเห่อนี่นะ      ด้วยความมุ่นมั่นที่จะทำต่างหูแบบหนีบให้เหมือนต่างหูแบบเจาะมากที่สุด ทำให้ต้องดั้นด้นค้นฟ้าคว้ากาวไกลถึงสำเพ็ง (ความจริงก็ไม่ไกลหรอกแค่ข้ามเจ้าพระยาไป แต่เราใช้คำให้มันเว่อร์เท่านั้นแหละ)      สำหรับต่างหูแบบห่วงเราไม่สนใจแล้ว เพราะแบบนี้มันเนียน มองเผินๆ เหมือนเราเจาะหูจริงๆ อันที่เราสนใจคือแบบตะปู ซึ่งมันดันมีสองแบบ คือมีห่วง และไม่มีห่วง (เพิ่งรู้ ตายๆๆๆ) หน้าตามันเป็นแบบนี้ ซ้ายมีห่วง สองอันขวาคือแบบไม่มีห่วง และมีหลายขนาดอีกเน้อ พอจะเห็นความแตกต่างมั้ย     แบบไม่มีห่วงนี่แหละที่เราเห็นว่ามันต้องทำอะไรอย่างอื่นได้อีก นอกจากห้อยลูกปัดธรรมดา ฉะนั้นลองเอากาวมาแปะจี้ แปะเพชรดีมั้ย แล้วจะใช้กาวอะไรดีล่ะ     แน่นอนว่าอากู๋รู้ทุกเรื่อง หลังจากค้นไปเรื่อยๆ ก็เจอกาว Epoxy ซึ่งมันสามารถยึดติดได้กับหลายพื้นผิว เช่น เหล็ก ไม้ แก้ว พลาสติก เลยตั้งใจไปสำเพ็งเพื่อซื้ออะไหล่ต่างหู และกาว epoxy (พ่อบอกว่ากาวนี้หาซื้อที่ร้านขายวัสดุก่อสร้าง แต่ไหนๆ ก็ไปสำเพ็งแล้ว รู้ชื่อร้านที่มีกาวขาย แถมรู้...

ผงโรยข้าวจากไดโซะ

ก่อนอ่านบทความนี้ จงตั้งสติและอ่านข้อความ 4 บรรทัดล่างอย่างตั้งใจ "ลิ้นใคร ลิ้นมัน" "รสนิยมใคร ก็รสนิยมมัน" "กระเพาะใคร ไตใคร ก็ไม่เกี่ยวกัน" "ฉะนั้นเธอกับฉันไม่เหมือนกันนะเออ" มาถึงตรงนี้คุณอ่านหนังสือเกิน 7 บรรทัดสั้นๆ แล้วค่ะ ดิฉันมีความยินดียิ่งที่จะเล่าเรื่องราวนี้ โดโซะ!!!!! ไดโซะ คุณผู้หญิงเดินเข้าร้านร้อยเยน เช่น ไดโซะ คุณซื้ออะไร 1. ดิ่งไปที่ของกิน 2. พุ่งตัวไปหาเครื่องสำอาง 3. ดูพวกเครื่องประดับ ถุงมือ ถุงเท้า ถุงน่อง 4. ดูของใช้ เครื่องครัวเก๋ๆ 5. ส่องของคิขุน่ารัก สำหรับเรา หาขนมก่อน หาของที่คิดว่าเรากินได้  เสบียงยามตกยาก เมื่อเงินร่อยหรอ และเอากลับมาประเทศบ้านเกิดได้ โดยไม่หมดอายุทันทีที่ออกจากแผ่นดินญี่ปุ่น สิ่งที่ใครๆ ก็แนะนำให้ซื้อ อันนี้ก็ไม่รู้ว่าไปมันเชื่อมาจากไหน หรือมันแค่อยากลองกินเบนโตะแบบที่แม่บ้านญี่ปุ่นทำ และล่อลวงด้วยการลงรูปทุกเช้าในอินสตาแกรม today's breakfast today's lunch โอ้วววว แม่จ๋า น้ำลายไหล ซึ่งมันก็ดันทุรังไปติดตามเขา...